Off White
Off White Outlet
Off White Hoodie
Off White Shoes
Off White Clothing
พ่อแม่ลูก Archives - Bambini Villa Sukhumvit 26
Skip to content Skip to footer

Tag: พ่อแม่ลูก

0 items - 0 ฿ 0

Tag: พ่อแม่ลูก

มัดรวมมาให้ 6 ร้านเพื่อสุขภาพและความงาม สำหรับทุกคนในครอบครัว

💘มัดรวมมาให้ 6 ร้านเพื่อสุขภาพและความงาม สำหรับทุกคนในครอบครัว💘ที่โครงการแบมบีนี่ วิลล่า สุขุมวิท 26 . ยุคนี้เป็นยุคที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพกันมากนะคะ การมีสุขภาพดีถือเป็นรากฐานของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงทำให้คนส่วนใหญ่หันมาดูแลร่างกายให้ดูดีอยู่เสมอ🌟ด้วยการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์🥗หมั่นออกกําลังกาย💃🏻รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอีกด้วย💅🏻วันนี้โครงการแบมบีนี่ วิลล่า ได้มัดรวม 6 ร้านเพื่อสุขภาพ และความงาม สำหรับทุกคนในครอบครัว👶👧🧒👨‍👩‍👧‍👦มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

Read More

7 กิจกรรม ”เล่นกับลูก” ที่บ้าน ช่วงวิกฤตโควิด-19

✨ 7 กิจกรรม ”เล่นกับลูก” ที่บ้าน 🏠  ช่วงวิกฤตโควิด-19✨ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ใช้เวลาอยู่กับลูกมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้การทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) หรือการอยู่บ้านเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองและลูกๆ และช่วยลดการแพร่ระบาดของคนในประเทศอีกด้วย หากท่านใดกำลังมองหากิจกรรมทำในช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้าน วันนี้เราขอแนะนำกิจกรรมสนุกๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเล่น   กับลูกได้ ไปดูกันเลยดีกว่าค่า 1.เล่นบทบาทสมมติ จินตนาการสำหรับเด็กเป็นสิ่งสำคัญ การเล่นบทบาทสมมติกับลูกของคุณ จะทำให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แถมเรายังสนุกไปกับการมีส่วนร่วมกับลูกของเราได้อีกด้วย 2.ทำอาหารพาเพลิน ลองให้ลูกของเราได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารด้วยสิคะ นอกจากน้อง ๆ จะได้ลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ แล้ว ยังเป็นการแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ได้ด้วย และเป็นการฝึกทักษะในการใช้ชีวิตประจำวันที่ได้ความเพลิดเพลินอีกด้วยค่ะ 3.เกมล่าสมบัติ หนึ่งในเกมยอดฮิตในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรทำอยู่บ้าน คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเกมง่ายๆ ที่ให้ลูกได้มีส่วนร่วมอย่างเช่น เกมล่าสมบัติ เพียงแค่นำของใช้ ของเล่น ไปซ่อนตามที่ต่าง ๆ ในบ้าน และสร้างแผนที่หรือปริศนา ให้ลูกของคุณได้ตามหาสมบัติเหล่านี้ ซึ่งเกมนี้จะช่วยฝึกการคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และสร้างความสนุกสนานตื่นเต้นให้แก่ลูก ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ 4.เล่นเกมเศรษฐี อีกหนึ่งเกม ที่ไม่ว่าใครในวัยเด็กก็ต้องเคยเล่นมาก่อน นั่นก็คือ ’เกมเศรษฐี’…

Read More

6 โรคในฤดูร้อนที่เด็กควรระวัง

🏠  เนื่องจาก ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตปัญหาที่โรคเชื้อไวรัส #Covid-19 กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ทำให้หลายๆครอบครัวต้องระวังไม่ให้ติดโรคนี้ . แต่รู้หรือไม่ว่า...นอกจากจะต้องรับมือกับโรคCovid-19 แล้วยังต้องระวังโรคที่มากับฤดูร้อนอีกด้วยโดยเฉพาะเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กเล็กภูมิคุ้มกันยังน้อยอยู่อาจจะทำให้ลูกน้อยเกิดอาการป่วยได้ เพราะว่าอากาศร้อนเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย ไม่ว่าจะเป็นโรคที่มาพร้อมกับความร้อนโดยตรง หรือโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมรับมือกับสภาพอากาศ และโรคภัยที่มากับฤดูกาลที่เปลี่ยนไปด้วย หากปล่อยให้ลูกน้อยเผชิญกับโรคภัยเหล่านั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายจนส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทั้งร่างกายและจิตใจได้ ซึ่งเรามาสำรวจกันเลยดีกว่า ว่ามีโรคอะไรบ้างที่มากับฤดูร้อน และมีวิธีป้องกันอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ~ โรคจากระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากอากาศร้อนเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ส่งผลให้อาหารเกิดการเสียและบูดเร็วขึ้น ซึ่งถ้าทานเข้าไปอาจทำให้ป่วยเป็นโรคท้องร่วง หรืออาหารเป็นพิษได้ อาการที่พบคือ ท้องเสียและถ่ายเป็นน้ำ อาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย หากอาการรุนแรง อาจเกิดการช็อคหมดสติได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกทานอาหารที่ปรุงสุกและหมั่นล้างมือ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารนะคะ โรคผดร้อน เป็นโรคที่เกิดจากรูขุมขนอุดตัน และไม่สามารถขับออกมาเป็นเหงื่อได้ จนกลายเป็นตุ่มแดงตรงบริเวณผิวหนัง อาจมีอาการคันและไม่สบายตัวร่วมด้วย ซึ่งผื่นสามารถหายได้เอง ภายใน 1-2 วัน แต่ถ้าหลายวันไม่ผื่นไม่ยุบ ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันได้โดย ให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถระบายเหงื่อได้ดี และไม่ทาโลชั่นหนาจนเกินไป เลือดกำเดาไหล มักจะพบบ่อยในกลุ่มเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ทำให้จมูกไวต่อการการเปลี่ยนแปลงของอากาศ และเป็นปัญหาสำหรับการปรับตัวของเยื่อจมูก ซึ่งทำให้เกิดอาการจาม คัดจมูก แล้วชอบขยี้จมูก จนทำให้เส้นเลือดในโพรงจมูกแตก จึงเป็นเหตุให้เลือดกำเดาออกนั่นเอง ดังนั้นควรรับมือด้วยการให้เด็กนั่งตัวเอียงไปข้างหน้า และให้ศีรษะก้มลงเล็กน้อย เพื่อให้เลือดไหลออกทางจมูกแทนที่จะไหลลงคอ ซึ่งอาจทำให้เด็กอาเจียนออกมาเป็นเลือดจากที่กลืนเข้าไป และใช้มือบีบจมูกบริเวณปีกจมูกเบา ๆ ในข้างที่มีเลือดกำเดาไหล อย่างน้อย…

Read More

7 วิธีป้องกันโควิด-19 เมื่อต้องออกจากบ้าน

กันไว้ก่อนดีกว่าแก้ ... 7 วิธีป้องกันโควิด-19 เมื่อต้องออกจากบ้านพร้อมกับลูก ช่วงนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนเราก็เห็นแต่ข่าวโรคระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โควิด-19” แต่ถ้าในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องพาลูกน้อยออกจากบ้าน จะทำอย่างไรถึงจะป้องกันภัยจากไวรัสนี้ได้กันนะ วันนี้ เรามีวิธีเตรียมตัวเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อต้องออกจากบ้านพร้อมลูกมาเสนอค่ะ สวมใส่หน้ากากอนามัย การป้องกันที่สำคัญขั้นพื้นฐาน คือการสวมใส่หน้ากากอนามัยให้แก่ตัวเราเองและลูก เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่สามารถแพร่เชื้อได้ผ่านลมหายใจ และสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ละอองของการจามหรือไอ 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการสวมหน้ากากอนามัย 1. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนใส่หน้ากาก 2. หันด้านสีเข้มออกข้างนอก และให้โครงลวดอยู่ด้านบน 3. สวมหน้ากากคลุมบริเวณปากและจมูก 4. ใช้มือจับห่วงยางยืดไปคล้องหูทั้งสองข้าง 5. ดึงหน้ากากลงมาให้คลุมถึงปลายคาง 6. ปรับโครงลวดให้แนบกับสันจมูก   พกเจลล้างมือ ไอเท็มนี้ห้ามพลาดเวลาเดินทางออกนอกบ้านเลยค่ะ เนื่องจาก เจ้าไวรัสตัวนี้สามารถเดินทางผ่านตัวกลาง โดยการที่ถ้ามีผู้ป่วยติดเชื้อนำมือปิดปากขณะจามหรือไอและไปจับวัตถุต่าง ๆ และหากเราไปสัมผัสต่อที่วัตถุนั้น และนำมาสัมผัสตา ปาก หรือจมูกของเรา ก็จะทำให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้นเราควรพกเจลล้างมือ ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป ติดกระเป๋าไว้เพราะว่าในบางสถานที่อาจจะหาที่ล้างมือได้ลำบาก เจลล้างมือถือว่าเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับการป้องกันเจ้าไวรัสนี้ค่ะ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านหรือว่าหลังเข้าห้องน้ำ ควรหมั่นล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อโรคสิ่งสกปรก รวมถึงไวรัส Covid-19 เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราจับอะไรมาบ้าง และสัมผัสโดนเชื้อโรคตัวไหนมาดังนั้น การที่หมั่นที่จะล้างมือบ่อย ๆ…

Read More

SkyRocket โรงเรียนสอนภาษาที่ให้มากกว่าภาษาอังกฤษ

SkyRocket โรงเรียนสอนภาษาที่ให้มากกว่าภาษาอังกฤษ เคยกังวลไหม❓ สักวันหนึ่งถ้าลูกของเราเข้าโรงเรียนอนุบาลไปจะเป็นอย่างไร 👉  ไม่กล้าทิ้งลูกไว้คนเดียวที่โรงเรียนเลย 👉  ลูกจะสามารถเข้ากับเด็กคนอื่นได้ไหม 👉  ลูกจะทำกิจกรรมได้หรือไม่ วันนี้ เราอยากแนะนำสถานที่ที่จะเป็นตัวช่วยให้ผู้ปกครองที่กำลังกังวลเรื่องเหล่านี้ได้รู้จักค่ะ ที่นั่นก็คือ “SkyRocket” สถาบันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก อายุ 1.5-10 ปี ที่มีรูปแบบการเรียนการสอนที่น่าสนใจ โดยนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมาใช้เป็นเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา แต่ยังคงพื้นฐานของการใช้เทคนิคในการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร หรือ Communicative Language Teaching นั่นเอง คุณพ่อคุณแม่จะหมดกังวลไปเลย เพราะที่นี่ เชี่ยวชาญเรื่องโปรแกรม International Pre-school สำหรับเด็กเล็กก่อนเข้าอนุบาล โดยมีการเรียนการสอนในวันธรรมดาคล้ายกับโรงเรียนจริงๆ ถึงแม้จะต้องแยกกับผู้ปกครอง แต่วางใจได้เลย เพราะที่นี่มีกล้อง CCTV และแอพลิเคชั่นที่ผู้ปกครองสามารถเข้าไปดูน้องๆ ได้ตลอดทั้งคลาส ได้เห็นพฤติกรรมของเขาเวลาที่ไม่ได้อยู่กับเรา เพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจและมีความไว้วางใจในมาตรฐานด้านการเรียนการสอน รวมถึงการดูแลเด็กของโรงเรียนอีกด้วย นอกจากนี้ที่โรงเรียนยังมีมาตรการป้องกันด้านสุขภาพอนามัยของนักเรียนรวมถึงพนักงานทุกคนในโรงเรียน มีการดูแลรักษาความสะอาดที่ดี เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าน้อง ๆ ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ในห้องเรียนจะมี Promethen ActivBoard เป็นอุปกรณ์แบบโต้ตอบ (Interactive Board) ที่เป็นมัลติทัช (Multi-touch) และสามารถมีผู้ใช้หลายคนพร้อม ๆ…

Read More

เรียนรู้ 7 ภาษากาย ของเจ้าตัวน้อย ที่พ่อแม่ควรรู้

เนื่องจากเด็กทารก…. จะยังไม่สามารถพูดหรือสื่อสารให้คนรอบข้างเข้าใจได้ ทำให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจเกิดความเครียดในการรับมือกับลูกน้อย เพราะไม่รู้ว่าที่ลูกร้องนั้นต้องการอะไร แต่รู้หรือไม่ว่า…ทุกการกระทำของลูกน้อยสามารถสื่อความต้องการได้ โดยสามารถสังเกตได้จาก สีหน้า เสียง และท่าทาง หรือที่เรียกว่า “ภาษากาย (Body Language)” นั่นเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถอ่านออกว่าลูกน้อย ต้องการบอกอะไรและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีก็คือ เจ้าตัวเล็กจะรู้สึกปลอดภัย และเกิดความผูกพันกับพ่อแม่มากขึ้น ดังนั้น เราจึงมี 7 วิธีสังเกตภาษากายของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรรู้ มาติดตามกันเลยค่ะ~ ท่าทางเตะขา หรือถีบขา แล้วยิ้มไปด้วย สิ่งที่ลูกน้อยกำลังพยายามสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ คือ เขากำลังมีความสุขและอยากเล่นเต็มที่ สังเกตได้จากการที่ลูกน้อยสบตาและเตะเท้าไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ ควรทำคือ การตอบสนองความรู้สึกของลูกด้วยการร้องเพลง หรือ พูดคุย เพื่อแสดงให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่ก็กำลังมีความสุขมากเช่นกัน แต่หากลูกเตะขาและส่งเสียงร้องไห้ล่ะก็ อาจหมายถึงเขากำลังรู้สึกไม่สบายตัว และต้องการความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่ เช่น อาจกำลังท้องอืด หรือผ้าอ้อมเปียกแฉะ คัน เป็นต้น ท่าแอ่นหลัง ถ้าลูกน้อยกำลังแอ่นหลัง พร้อมกับทำสีหน้าบึ้งตึงเหมือนจะร้องไห้ แสดงว่าลูกน้อยกำลังรู้สึกไม่สบายตัว อึดอัด แต่ถ้าแอ่นหลังในระหว่างกินข้าวและบ้วนอาหารออกมา เดาได้ว่าลูกอาจจะอิ่มแล้ว ควรหยุดป้อนอาหาร เพราะถ้ายังหลอกล่อให้ลูกกินต่อ อาจจะทำให้เกิด “ภาวะกรดไหลย้อนในเด็ก” ได้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ คือ อุ้มลูกขึ้นมาและหาสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่สบายตัว เช่น สำรวจผ้าอ้อม ดูว่าลูกหิวหรือปวดท้องกันแน่ จะได้สามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด…

Read More

ขู่ลูก…ให้กลัว ส่งผลต่อพัฒนาการลูกอย่างไร

‼️  รู้หรือไม่ว่า..การขู่ลูกให้กลัว ‼️ ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก จะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้กลัว และส่งผลต่ออนาคตให้กลายเป็นคนขี้กังวล แน่นอนว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะการที่ลูกเชื่อฟังในตอนแรกจะมาจากความหวาดกลัวในคำขู่ต่าง ๆ ซึ่งทำให้ส่งผลต่อการลำดับความคิดของเด็ก และยังเป็นการปลูกฝังความเชื่อผิด ๆ ที่สร้างผลกระทบต่อ การดำเนินขีวิตและขัดขวางพัฒนาการของลูกน้อย ทำให้ลูกจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ เนื่องจากโดนความกลัวจากการขู่ครอบงำ ดังนั้น เหล่าคุณพ่อแม่ควรสื่อสารด้วยการ บอกเหตุและผลที่สอดคล้องแทนการขู่ให้กลัว เพื่อเด็กจะได้มีการพัฒนาการทางสมองในเรื่องภาษาและการเรียนรู้ที่ดีตามไปด้วย   “ขู่ลูก” ส่งผลเสียอย่างไร รู้หรือไม่ว่า การขู่หรือการดุลูก ส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของลูกน้อย และปลูกฝังนิสัยที่ไม่ดีกับความเชื่อผิด ๆ ให้กับลูกน้อยได้ เช่น - บั่นทอนจิตใจ - สร้างนิสัยก้าวร้าว - ไม่กล้าเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ (มักติดอยู่ใน Safe zone) - ไม่เชื่อมั่นในตัวพ่อแม่ - ไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจผลเสียของการขู่ ดุ ด่า และมาดูวิธีเลี่ยงการกระทำเหล่านี้กันค่ะ   ก่อนนอน (ผีจะมาหลอก...ถ้ายังไม่นอน) จะทำให้ลูกเกิดอาการหวาดกลัว และไม่กล้าอยู่คนเดียวในเวลากลางคืน ซึ่งจะไม่รู้เหตุผลจริงๆว่า ทำไมถึงต้องรีบนอนในเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน ดังนั้น พ่อแม่ควรสื่อสารโดยการบอกเหตุและผลกระทบของการนอนดึก แทนการขู่ลูกให้กลัว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหนูนอนดึก จะทำให้พรุ่งนี้เช้าหนูจะตื่นไปโรงเรียนไม่ทัน   พาไปหาหมอ (ถ้าดื้อจะโดนฉีดยา) ส่งผลให้ลูกน้อยเกิดอาการกลัวหมอ ในกรณีที่ลูกเกิดอาการเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมา ส่งผลกระทบให้คุณหมอทำงานได้ยากขึ้น เนื่องจากลูกน้อยปฏิเสธการรักษาหรืออาละวาดเพราะว่ากลัวหมอ ซึ่งอาจทำให้อาการป่วยหายช้าลงก็เป็นได้…

Read More

วิธีการปกป้องลูกน้อยจากเหตุการณ์อันตราย

วิธีการปกป้องลูกน้อยจากเหตุการณ์อันตราย ในช่วงที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับความรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้หลายๆ ครอบครัวเริ่มตระหนักและตื่นตัวที่จะเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเล็ก ‼️ วันนี้เรามีข้อแนะนำวิธีการปกป้องลูกน้อยจากเหตุการณ์อันตรายมาฝากค่ะ ตั้งสติให้เร็วที่สุด เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เป็นธรรมดาของคนเรา ที่จะตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก พ่อและแม่จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกมั่นใจและปลอดภัย ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยครอบครัวของเราให้รอดจากความเป็นความตายมากที่สุด ก็คือการตั้งสติ หรือ ดึงสติ กลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกว่า ลูกจะปลอดภัยหากลูกอยู่กับพ่อแม่อย่างมีสติและปฏิบัติตามคำเตือนของพ่อแม่ ซึ่งจะช่วยลดความกลัวของลูกได้ หนีให้เร็วที่สุด การหนี คือสิ่งที่ควรทำที่สุดในสถานการณ์นี้เมื่อต้องหนี ต้องเลือกทิ้งสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการหลบหนี หากมีลูกเล็กรีบอุ้มชิดติดตัวและพาหนีออกไป แต่ในกรณีที่มีลูกหลายคน คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนให้ดีว่าใครจะอุ้มคนไหน แต่ถ้าลูกโตพอที่จะวิ่งหรือเดินเองได้แล้ว ให้รีบจับมือให้มั่นแล้วพากันวิ่งไปห้ามปล่อยมือเด็ดขาด หาที่หลบภัย หากไตร่ตรองแล้วว่าไม่สามารถหนีได้ทัน ให้รีบหาที่หลบภัยในทันที ห้าม!! หลบในห้องน้ำ หรือหลบในห้องโล่ง ๆ ที่ไม่มีที่กำบัง เมื่อเลือกที่หลบได้แล้วให้หาของหนัก ๆ มากั้นหรือบังประตูไว้ รีบปิดไฟหรือปิดม่านหลบในที่กำบัง และที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะปิดเสียง-ปิดสั่น-ปิดแสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือและของเล่นของลูก  พยายามควบคุมให้เด็ก ๆ อยู่ในความสงบ ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ น้ำและขนมจำเป็นต้องมีติดกระเป๋าไว้เวลาออกนอกบ้านทุกครั้งเพราะหากเด็กเริ่มหิวหรือง่วง อาจจะงอแงขึ้นมาโดยที่เราไม่อาจควบคุมได้ทัน ติดต่อขอความช่วยเหลือ ในโทรศัพท์ของคุณ ควรบันทึกเบอร์โทรฉุกเฉินไว้ เพื่อขอความช่วยเหลือในยามคับขัน…

Read More

Open from 9am – 10pm daily
18 Soi Athakravi 1
Sukhumvit 26 Bangkok 10110

Bambini Villa © 2024. All Rights Reserved.

Off White
Off White Outlet
Off White Hoodie
Off White Shoes
Off White Clothing